อังกาบ

ชื่อสมุนไพร       : อังกาบ

ชื่อพื้นเมือง       : ก้านชั่ง คันชั่ง ลืมเฒ่าใหญ่ ทองระอา ทองระย้า อังกาบกานพลู อังกาบเมือง

วงศ์               :  (ACANTHACEAE)

ชื่อวิทยาศาสตร์  :  Barleria cristata L.

ชื่อสามัญ         :  Philippine violet, Bluebell barleria, Crested Philippine violet

ลักษณะของสมุนไพร ต้นอังกาบ มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและจีน จัดเป็นไม้พุ่มเตี้ยขนาดเล็ก มีลำต้นเป็นข้อ มีความสูงประมาณ 1-1.5 เมตร กิ่งก้านและลำต้นจะมีขนสีเหลืองอ่อนโดยเฉพาะตามข้อ ไม่มีหนามเหมือนต้นอังกาบหนู เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดปานกลาง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำกิ่งและการใช้เมล็ด ในประเทศไทยนั้นสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามหัวไร่ปลายนา ป่าละเมาะ หรือป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง รวมไปถึงป่าก่อ สมุนไพรต้นอังกาบ โดยทั่วไปแล้วจะแยกออกเป็น 3 สี 3 ชนิด ได้แก่ ชนิดดอกสีม่วง ชนิดดอกสีขาว และชนิดดอกสีเหลือง โดยดอกสีม่วงนั้นจะมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศจีนและอินเดีย ส่วนชนิดดอกสีขาวและเหลืองนั้นสามารถพบได้ทั่วไปตามป่าราบหรือที่รกร้างว่างเปล่าในประเทศไทย แต่ในปัจจุบันแทบจะไม่เห็นแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ที่เห็นจะมีแต่ชนิดสีม่วง

รูปภาพ

การใช้ประโยชน์ในท้องถิ่น/สรรพคุณ โดยทั่วไปแล้วจะนิยมปลูกไว้เป็นกลุ่มไม้ประดับสวนหย่อมเพื่อใช้ปรับภูมิทัศน์เป็นหลัก จึงใช้ปลูกทำเป็นรั้ว ริมทางเดิน รวมไปถึงริมธารน้ำตก ริมทะเล เป็นต้น เนื่องจากอังกาบมีดอกที่สวยงามนั่นเอง โดยปัจจุบันได้มีการปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้มีดอกสีขาวหรือดอกสีม่วงสลับขาว ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ช่วยเจริญธาตุไฟช่วยฟอกโลหิตในร่างกาย รากช่วยแก้ลม ดอกมีสรรพคุณเป็นยาช่วยขับเสมหะ รากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ รากมีรสหวาน ใช้เป็นยาแก้ระดูขัด ฟอกโลหิตระดูของสตรี แก้ประจำเดือนคั่งค้างเป็นลิ่มเป็นก้อน ช่วยแก้อาการเจ็บปวดเมื่อยบั้นเอว ช่วยแก้อาการบวม ช่วยแก้อาการปวดฝี ใบช่วยถอนพิษร้อนอักเสบ รากอังกาบดอกม่วง ใช้แก้พิษงู พิษตะขาบ และแมลงป่องต่อย

แหล่งที่พบจากการสำรวจ  :  หมู่ที่ 10 บ้านไผ่ใหญ่ ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังนกแอ่น จังหวัดพิษณุโลกที่มาของข้อมูล

ผู้ให้ข้อมูล ชื่อ – สกุล  นายโกศล สมบัติคำ อายุ 58 ปี

ที่อยู่ บ้านเลขที่ 221/1 หมู่ที่ 10 บ้านไผ่ใหญ่ ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังนกแอ่น จังหวัดพิษณุโลก